เลือก รุ่นไหนดี กับ nissan sylphy

 

ในงานเปิดตัว nissan sylphy  ทาง Nissan Motor ได้อัดแคมเปญ ในช่วงเปิดตัว Nissan Sylphy อย่างคับคั่ง เรียกได้ว่า ผิดวิสัย กันเลย สำหรับรถระดับนี้ เริ่มจาก

Nissan เสนอเงื่อนไขทางการเงินโดย Nissan Leasing ดังต่อไปนี้
-อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%
-ผ่อนสบายกับโปรแกรม Easy Pay เริ่มต้นเดือนละ 7,999 บาท
-ดาวน์ขั้นต่ำ 29,999 บาท
-ผ่อนนานสูงสุด 84 เดือน

นอกจากนี้  Nissan ยังเสนอแคมเปญพิเศษ Premium Package สำหรับผู้ที่จองรถยนต์ Nissan Sylphy ภายใน 31 ธันวาคม 2012 ได้แก่
-ใช้สิทธิ์ซื้อประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection ราคา 5,555 บาท
-ติดฟิล์มรอบคันจาก Lamina ฟรี
-พรมแท้คุณภาพสูงจาก Nissan ฟรี

และมาแปลก งานนี้ Nissan ถึงกับกล่าวรายละเอียด การสร้างความประทับใจในการบริการหลังการขาย ด้วยการชูจุดเด่น ค่าบำรุงรักษาในระยะ 100,000 กิโลเมตรหรือ 60 เดือน เพียงแค่ 18,898 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์คู่แข่งก็จะมีค่าบำรุงรักษามากกว่า 20,000 บาท  นับได้ว่า เป็น เทคนิคชั้นดีในเชิงการตลาดเลยทีเดียว

รู้อย่างนี้แล้ว คุณจะเลือกรุ่นไหนดี ?

รายละเอียดแต่ละรุ่น

 

 

 

 

ดูรายละเอียด เพิ่มเติม ได้ที่นี่

 

ขอบคุณ ภาพ จาก nissan.co.th

และ ข้อมูลจาก คุณวรพล ลิ่มศิริวงศ์

 

จุดขายหลักของนิสสัน ซิลฟี ใหม่

 

บทนี้ เรา มาดูจุดขายหลักๆ ของนิสสัน ซิลฟี ใหม่ กันนะ ….โดย นิสสัน การันตีว่าแตกต่างจากเซ็กเมนต์เดียวกันแน่นอน …. มีอะไรบ้าง    มาดูกัน

1) เอกลักษณ์ที่สะท้อนความมีระดับ (Energetic Sedan Expression)

- รูปลักษณ์ ด้านหน้า ด้านข้างและด้านท้าย นิสสัน ซิลฟี ใหม่ออกแบบให้มีขนาดตัวถังใหญ่ที่สุด เมื่อเทียบกับรถยนต์ในระดับเดียวกัน และยังได้รับการออกแบบ ตามหลักอากาศพลศาสตร์ ให้มี ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน ที่ต่ำ เพียง 0.29  จึงมี อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำ

- ขยายพื้นที่บริเวณกระจกหน้า เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่  กันชนขนาดใหญ่และ กระจังหน้าพร้อมช่องระบายอากาศแบบรังผึ้ง

 

- ชุดไฟหน้าแบบ  Multi-reflector  พร้อมไฟแบบ LED  ที่ได้ติดตั้งทั้งในตำแหน่งไฟหรี่ด้านหน้า  ชุดไฟท้าย ไฟเบรค ดวงที่สาม และไฟเลี้ยว บริเวณกระจกมองข้าง และไฟอ่านแผนที่ รวมรอบคัน 54 ดวง

 

ชุดแต่งเพิ่มเติม…

 

 

- ห้องโดยสารภายในที่กว้างที่สุด เทียบเท่ารถยนต์นั่งหรูระดับกลาง และพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถ ที่มีขนาดความจุมากถึง 510 ลิตร ใหญ่ที่สุด ในระดับเดียวกัน และเทียบเท่ารถยนต์นั่งหรูระดับใหญ่  พร้อมช่องกลางทะลุถึงห้องโดยสารด้านหลัง สะดวกสบายต่อการใช้งาน

 

- ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว และชุดโครเมียม บริเวณกระจังหน้า ที่เปิดประตูและด้านกระโปรงท้าย

 

 

2) รังสรรค์เพื่อทุกสัมผัสแห่งความสุข (Delight for All)

- พื้นที่ภายในห้องโดยสารขนาดใหญ่ ช่วยให้เข้า - ออกห้องโดยสารได้สะดวกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

- สีภายในแบบเบจ โทนใหม่ และบริเวณคอนโซลใช้วัสดุคุณภาพสูง ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีพิเศษ  Micro-grain  เพื่อลดแสงสะท้อน ให้ความรู้สึกอบอุ่น พร้อมบุวัสดุบุนุ่ม (soft pad) บริเวณด้านหน้าคอนโซล และด้านข้างประตูให้ความรู้สึกนุ่มนวล ทุกสัมผัส

- เบาะนั่งขนาดใหญ่ ใช้วัสดุหนัง ( ในรุ่น 1.8V Navi 1.8V และรุ่น  1.6V)  พร้อมที่พักแขนและ ที่วางขวดหรือแก้วน้ำ และพนักพิงศรีษะ ปรับระดับได้บริเวณที่นั่งด้านหลัง มีพนักเท้าแขนด้านหน้า พร้อมช่องเก็บของมีฝาสไลด์ปิด

 

- แผงคอนโซลด้านหน้าออกแบบให้ใช้ง่ายตามหลักสรีระศาสตร์หรือ Ergonomic design

- แผงคอนโซลกลางตกแต่งด้วยชุดลายไม้ (ในรุ่น1.8V Navi 1.8V และ  1.6 V)  และชุดเมทัลลิก  (ในรุ่น 1.6E  และ 1.6S ลิตร)

- พวงมาลัยมัลติฟังค์ชั่นแบบ 3  ก้าน ปรับได้  4 ทิศทาง หุ้มหนัง  (ในรุ่น1.8V Navi 1.8V  และ 1.6 V)  สไตล์สปอร์ต พร้อมระบบพวงมาลัยไฟฟ้า (EPS) และเพิ่มความสะดวกสบายกับสวิทซ์ควบคุมเครื่องเสียง และหน้าจอ MID ที่พวงมาลัยและระบบควบคุมเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth)

 

 

- แผงหน้าปัดเรืองแสง  (Fine Vision  Meter) ขนาดใหญ่พร้อม จอแสดงข้อมูล  Multi Information Display  ในทุกรุ่น เพื่อแสดง ข้อมูลอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง  ทั้งในแบบใช้จริง และเฉลี่ย/ชั่วโมง มาตรวัดระยะทางย่อยและระยะทางรวม

 

 

 

- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมแยกปรับอุณหภูมิอิสระได้ ซ้าย  –  ขวา มีระบบช่องแอร์ด้านหลังสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง (เฉพาะรุ่น 1.8V Navi 1.8 V  และ 1.6 V)

 

- ชุดเครื่องเสียงแบบ Built-in ลำโพง 6 ตัว พร้อมหน้าจอสี ขนาด 4.3 นิ้ว ในรุ่น1.8 V เล่นซีดี  1 แผ่น และเครื่องเล่น MP3  และช่องต่อ AUX  และอุปกรณ์เชื่อมต่อ USB  บริเวณช่องเก็บของ

- สำหรับรุ่น 1.8V Navi เพิ่มเติมระบบนำทาง Navigation system บนหน้าจอ 5.8นิ้ว

 

 

- กล้องมองหลัง (เฉพาะรุ่น 1.8V และ 1.8V Navi) มองได้ไกลถึง 3 เมตร

- ระบบกุญแจอัจริยะ Intelligent key พร้อมปุ่มเปิดท้ายรถ และระบบ Immobilizer และ Panic alarm กระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อครถ

- และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push start button

 

 

3) เทคโนโลยีเพื่อความคุ้มค่าและความปลอดภัยสูงสุด (Clever Efficiency)

- เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร ใหม่ รหัส  MRA8DE  ที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น ด้วยการเพิ่มช่วงชักกระบอกสูบผสานไปกับการทำงานของ ระบบวาล์วแปรผันคู่ Twin C-VTC (Twin Continuously-Variable Timing Control) เพิ่มระยะชักกระบอกสูบ ให้ยาวขึ้นทั้งฝั่งไอดีและไอเสีย เพื่อให้การเผาไหม้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น  และเคลือบแข็งระบบสปริงวาล์ว  Diamond-like carbon coating ช่วยลดน้ำหนัก แรงเสียดทานและแรงเฉื่อยของวาล์ว เสริมประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์  เงียบขึ้นและประหยัดน้ำมันมากขึ้น

ความจุกระบอกสูบ : 1,798 ซีซี
แรงม้าสูงสุด PS (กิโลวัตต์/รอบต่อนาที) : 131(96/6000)
แรงบิดสูงสุด นิวตัน-เมตร (กก-ม)/รอบต่อนาที : 174 (17.8)/3600
ระบบขับเคลื่อน : XTRONIC CVT

 

- เครื่องยนต์เบนซิน  1.6 ลิตร 4 สูบ  16 วาล์ว  รหัส  HR16DE  ที่ได้รับการพัฒนาใหม่  และได้ติดตั้งระบบวาล์วแปรผันคู่  Twin C-VTC (Twin Continuously Variable Timing Control)  ผสานกับการทำงาน ของระบบหัวฉีดคู่ Dual Injector System นับเป็นครั้งแรก ในรถยนต์ระดับเดียวกัน เพื่อช่วยให้เกิดการเผาไหม้ เกิดการเสถียรได้ดียิ่งขึ้น เพื่อสมรรถนะที่ดีกว่า และประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ

ความจุกระบอกสูบ : 1,598 ซีซี
แรงม้าสูงสุด PS (กิโลวัตต์/รอบต่อนาที) : 116 (85/5600)
แรงบิดสูงสุด นิวตัน-เมตร (กก-ม)/รอบต่อนาที : 154 (15.7)/4000
ระบบขับเคลื่อน : MT/XTRONIC CVT

- เทคโนโลยี เพียวไดร์ฟ  (Pure Drive Technology) อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พัฒนาเครื่องยนต์ที่ช่วยลดมลพิษในอากาศ

- ระบบเกียร์อัจฉริยะแปรผัน XTRONIC  CVT  จากการพัฒนาระบบเกียร์ให้มีขนาดเล็กลง  น้ำหนักเบาลง แต่ให้อัตราทดเกียร์ที่กว้างขึ้น  ตอบสนองทุกรูปแบบของการขับขี่ และประหยัดน้ำมัน

- โครงสร้าง Zone Body Concept เอกสิทธิ์เฉพาะนิสสัน แข็งแกร่ง ทนทาน รองรับน้ำหนัก และลดแรงกระแทกได้อย่างดี ระบบช่วงล่างด้านหน้า แบบอิสระแม็คเฟอร์สัน สตรัท และระบบช่วงล่างด้านหลังทอร์ชั่น บีม พร้อมเหล็กกันโคลง ลดการสั่นสะเทือนทุกสภาพถนน

- ระบบความปลอดภัย  Safety Shield แนวคิดยานยนต์เพื่อความปลอดภัยจากนิสสัน  มาพร้อมมาตรฐานความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น  ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ  ระบบดิสก์เบรค 4 ล้อ ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED โดดเด่นชัดเจนในระยะไกล  เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ  ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS Airbags) ในทุกรุ่นเพื่อลดความรุนแรงจากกการบาดเจ็บในกรณีที่เกิดแรงปะทะจากด้านหน้า ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (ABS)  ระบบเสริมแรงเบรก (BA) และระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ลดระยะเบรกลงได้ 10-15 เปอร์เซ็นต์ และมั่นใจ อุ่นใจมากขึ้นกับระบบป้องกันการโจรกรรม Immobilzer

 

 

 

นิสสัน ซิลฟี ใหม่ มีให้เลือก 6 รุ่น

เครื่องยนต์ 1.6 ซีซี 4 รุ่น และ เครื่องยนต์ 1.8 ซีซี 2 รุ่น

1.8 V Navi CVT ราคา 931,000 บาท
1.8 V CVT ราคา 899,000 บาท
1.6 V CVT ราคา 833,000 บาท
1.6 E CVT ราคา 799,000 บาท
1.6 S CVT ราคา 776,000 บาท
1.6 S MT ราคา 746,000 บาท

นิสสัน ซิลฟี ใหม่ มีให้เลือก 6 สี

KBD สีเทา ดีพ ไอริส เกรย์
QX1 สีขาวมุก ไวท์ เพิร์ล
K23 สีเงิน บริลเลี่ยนท์ ซิลเวอร์
G42 สีดำ แบล็กสตาร์
NAH สีแดง เรเดียนท์ เรด
KAC สีน้ำตาล เกรย์ยิช บรอนซ์

 

ขอบคุณข้อมูลจาก   matichon.co.th และ nissan.co.th

นิสสัน เปิดตัวแล้ว NEW NISSAN SYLPHY "ซิลฟี"

 

NEW NISSAN SYLPHY

AESTHETIC OF LIVING

เสน่ห์แห่งดีไซน์ เส้นสายอันเป็นเอกลักษณ์สะกดทุกสายตาด้วยพลังแห่งดีไซน์ที่ลงตัว โดดเด่นและแตกต่างด้วยเส้นสายพลิ้วไหวรอบคัน

อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ นิสสัน ซิลฟี ใหม่ สะท้อนความเหนือระดับในทุกมุมมอง สง่างาม ทันสมัยยิ่งขึ้น อีกขั้นของการดีไซน์ตัวถังขนาดใหญ่กว่า ปราดเปรียวลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ เติมเต็มสุนทรียภาพในทุกมิติของการขับเคลื่อน

 

เปิดตัวอย่างเป็นทางการกันไปแล้วนะคะ กับ นิสสัน ซิลฟี  ในวันนี้ 30/8/2555    รอบสื่อมวลชน …. แน่นอนค่ะ  พรีเซ็นเตอร์ ของ นิสสันซิลฟี ย่อมเด่นไม่แพ้กัน ….ชมพู่ อารยา เอฮาร์เก็ต…  เธอสวยมากกกกกก !   ว่า อย่างนั้นไหมคะ??? ^^ 

 

 

ส่วน พรีเซนเตอร์ หนุ่ม ของ นิสสัน ซิลฟี ก็ หล่อไม่แพ้กัน เลยทีเดียว  กับ คุณ โป๊บ ธนวรรธน์  งานนี้  ต้องขอชม ว่า นิสสัน เลือก พรีเซ็นเตอร์ ได้ เหมาะเจาะมากๆ

 

บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวรถยนต์นั่งระดับกลาง 4 ประตู นิสสัน ซิลฟี ใหม่ เด่นที่ไฟ LED รอบคันกว่า 54 ดวง ชูห้องโดยสารเงียบ เพิ่มพื้นที่กว้างขวางขึ้น และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยแต่ประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้นจากเดิม 15 % ตั้งเป้าขายในปีนี้ที่ 20,000 คัน

นิสสัน ซิลฟี เข้ามาทำตลาดแทน นิสสัน ลาติโอ หรือ ทีด้า 4 ประตู  เข้ามาเติมเต็มตลาดคอมแพ็กคาร์เพราะเป็นเซ็กเมนต์เดียวที่ไม่มีรถมาต่อกรกับคู่แข่ง

ถือเป็นการอุดช่องว่างของโปรดักส์ ที่นิสสันหายจากการทำตลาดไปนานหลายปี  โดยรุ่นนี้ชูความโดดเด่นของรูปลักษณ์  พื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสาร  และออปชันอำนวยความสะดวก-ปลอดภัยเพียบ  พร้อมขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.6 และ 1.8 ลิตรใหม่ ประกบเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติแบบ CVT ซึ่งแบ่งการขายเป็น 6 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้นที่ 746,000- 931,000บาท

ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศที่สองที่เปิดตัวพร้อมขายเก๋งรุ่นนี้ต่อจากประเทศจีน

 

 

“การเปิดตัว นิสสัน ซิลฟี ใหม่ รถยนต์นั่งระดับกลาง  4 ประตู ที่มีแผนทำการตลาดทั่วโลกครั้งนี้ ก็นับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของเรา โดยรถยนต์รุ่นนี้ได้เผยโฉมครั้งแรก ในโลกในงานปักกิ่ง มอเตอร์ โชว์ ประเทศจีน  เมื่อไม่นานมานี้ ประเทศไทยนับเป็นประเทศที่ 2 ที่ได้เริ่มทำการตลาดหลังจากประเทศจีนเพียงไม่กี่เดือน  และจะเป็นฐานของการผลิตที่สำคัญของรถยนต์รุ่นนี้”  คุณโทชิยูกิ ชิกะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด กล่าว

 

 

 

 

 

 

นิสสัน ซิลฟี ใหม่ มีให้เลือก 6 รุ่น

เครื่องยนต์ 1.6 ซีซี 4 รุ่น และ เครื่องยนต์ 1.8 ซีซี 2 รุ่น

1.8 V Navi CVT ราคา 931,000 บาท
1.8 V CVT ราคา 899,000 บาท
1.6 V CVT ราคา 833,000 บาท
1.6 E CVT ราคา 799,000 บาท
1.6 S CVT ราคา 776,000 บาท
1.6 S MT ราคา 746,000 บาท

นิสสัน ซิลฟี ใหม่ มีให้เลือก 6 สี

KBD สีเทา ดีพ ไอริส เกรย์
QX1 สีขาวมุก ไวท์ เพิร์ล
K23 สีเงิน บริลเลี่ยนท์ ซิลเวอร์
G42 สีดำ แบล็กสตาร์
NAH สีแดง เรเดียนท์ เรด
KAC สีน้ำตาล เกรย์ยิช บรอนซ์

 

 

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก  manager.co.th  และ matichon.co.th และ clubchom และ nissan.co.th

ออกนิสสัน ซิลฟี หมดห่วงกับ ปัญหาเรื่องป้ายทะเบียน แน่นอน

สำหรับ ท่านที่กำลัง คิดออกนิสสัน ซิลฟี ต่อไปนี้  ไม่ต้องกลัว ปัญหาเรื่องป้ายทะเบียนขาด หรือ ป้ายทะเบียนแตกลายงาอีกต่อไปแล้ว  

 

 

 

กรมการขนส่งทางบกรับป้ายทะเบียนล็อตแรกจากผู้ผลิตแล้ว  1 แสนป้าย เตรียมรับล็อตใหญ่อีก  8 ล้านกลาง  ก.ย.นี้ มั่นใจไร้ปัญหาขาดแคลน  แจงปัญหาแตกลายงาเลยเวลารับประกัน ต้องแก้ทีโออาร์จัดซื้อใหม่ นายอัฌษไธค์  รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองอธิบดีฝ่ายปฏิบัติการ กรมการขนส่งทางบก  (ขบ.) เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบก ได้รับมอบแผ่นป้ายทะเบียนล็อตแรก จากทางผู้ผลิตตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาประมาณ 1 แสนแผ่นป้าย หลังจากนี้จะทยอยรับมอบในล็อตที่ 2 และ 3 อย่างต่อเนื่อง โดยจะรับแผ่นป้ายทะเบียนครบทั้งหมดรวม 8 ล้านแผ่นป้ายในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้ หลังจากนั้นจะไม่มีปัญหาป้ายแดงหรือป้ายดำ (แผ่นป้ายสีขาวตัวหนังสือสีดำ)  ขาดแคลนเกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ยืนยันว่าจำนวนป้ายทะเบียน ที่กรมการขนส่งทางบกจัดซื้อมาในครั้งนี้ จะเพียงพอกับ จำนวนประชาชนที่ซื้อรถใหม่ที่ยังไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน รวมถึงผู้ที่กำลังจะ ซื้อรถใหม่อย่างแน่นอน เพราะจำนวนป้ายทะเบียนที่สั่งซื้อเพิ่มเติม มีอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเพียงพอกับความต้องการซื้อรถใหม่ที่มีมากขึ้น ในอนาคตด้วย

"แผ่นป้ายที่กรมการขนส่งทางบกรับมาจะเป็นแผ่นป้ายเปล่าๆ หลังจากนั้นจึงจะนำมาจัดทำเป็นแผ่นป้ายแดง และป้ายดำ รวมถึงการปั๊มตัวอักษรลงไปบนแผ่นป้ายทะเบียน เพื่อส่งให้กับผู้ที่ไปจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกต่อไป"

แหล่งข่าวจากกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ปัญหาป้ายทะเบียนขาดแคลนมีสาเหตุมาจากป้ายทะเบียนแตกลายงาของป้ายทะเบียนบางหมวด เช่น หมวด ฎ ข และ ฮ เป็นต้น จึงส่งผลให้ กรมการขนส่งทางบกต้องสั่งระงับการผลิตป้ายทะเบียนทั้งหมด และมีการจัดซื้อจัดจ้างใหม่ จนส่งผลให้ป้ายทะเบียนขาดแคลน ทั้งป้ายแดง และป้ายดำ แต่ภายหลังกรมการขนส่งทางบก เริ่มรับมอบแผ่นป้ายในล็อตแรกมาแล้ว ก็จะเริ่มส่งมอบให้กับเจ้าของรถ ที่ไปจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกอย่างต่อเนื่อง และจะไม่มีปัญหาในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีก 

ทั้งนี้ ปัญหาป้ายแตกลายงา เป็นการจัดซื้อตั้งแต่ปี 2552 เป็นป้ายที่มีต้นทุนต่ำประมาณ 20 บาทต่อแผ่นป้าย หลังจากนำมาใช้งานประมาณ 2-3 ปี ก็เกิดปัญหา และไม่สามารถเอาผิดกับทางบริษัทผู้ผลิตได้ เนื่องจากเกินกำหนดระยะรับประกัน 1 ปีไปแล้ว การจัดซื้อครั้งใหม่กรมการขนส่งทางบกจึงต้องกำหนดเงื่อนไขการจัดซื้อจัดจ้าง (ทีโออาร์) ใหม่ ให้รับประกัน 5 ปี เพื่อขยายเวลารับผิดชอบของบริษัทที่ชนะการประมูลให้นานมากยิ่งขึ้น หากเกิดปัญหามาอีกก็สามารถเอาผิดได้ โดยราคาจัดซื้อแผ่นป้ายทะเบียนใหม่อยู่ที่ประมาณ 35 บาทต่อแผ่น 

อย่างไรก็ตาม ป้ายทะเบียนใหม่ที่กรมการขนส่งทางบกจัดซื้อรวม 8 ล้านแผ่นป้าย จะแบ่งเป็น ป้ายแดง 1.4 แสนแผ่น ป้ายรถยนต์ 4 ล้านแผ่น และป้ายรถจักรยานยนต์ 3 ล้านแผ่น จึงมั่นใจว่าจะเพียงพอกับความต้องการของผู้ที่ซื้อรถและเข้าจดทะเบียนกับกรมการขนส่งแน่นอน 

แหล่งข่าวกล่าวว่า ป้ายทะเบียนที่ไม่เพียงพอในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลจึงส่งผลให้มีผู้ซื้อรถใหม่เป็นจำนวนมาก โดยในช่วงที่ผ่านมามีจำนวนการเข้าจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกประมาณ 50,000 คันต่อเดือน จากก่อนหน้านั้นที่มีประมาณ 20,000 คันต่อเดือนเท่านั้น แต่หลังจากทยอยรับมอบป้ายแล้ว จะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นแน่


 

 

ขอบคุณข่าวสารจาก   matichon.co.th 

ข่าวสารเปิดตัว นิสสัน ซิลฟี่ และ ป้ายทะเบียนรถขาดแคลน แตกลายงา

กรมการขนส่งทางบกรับป้ายทะเบียนล็อตแรกจากผู้ผลิตแล้ว 1 แสนป้าย เตรียมรับล็อตใหญ่อีก 8 ล้านกลาง ก.ย.นี้ มั่นใจไร้ปัญหาขาดแคลน แจงปัญหาแตกลายงาเลยเวลารับประกัน ต้องแก้ทีโออาร์จัดซื้อใหม่

เปิดตัว teaser นิสสัน ซิลฟี ความสุนทรีย์ของการใช้ชีวิต

นิสสัน ซิลฟี มาพร้อมกับ สโลแกน  

"ความสุนทรีย์ของการใช้ชีวิต"

 

เป็นที่แน่นอนแล้วกับการเปิดตัว ของ เจ้าหนู ซิลฟี

พบกัน ครั้งแรก ที่ ลานพาร์ค พารากอน 

ในงาน คุณจะได้ สัมผัส และ ทดลองขับ กันได้ ก่อนใครกันเลยทีเดียว

นอกจากนี้ ยังได้ พบ กับ การเปิดตัว พรีเซนเตอร์คู่ หนุ่มหล่อ สาวสวย ของนิสสัน ซิลฟี

ชมพู่-อารยา  เอ ฮาร์เก็ต และ โป๊ป ธนวรรธน์  วรรธนะภูติ     กันแบบ ใกล้ชิดอีกด้วย

 

อย่าลืมไปร่วมงานกันนะคะ

 

นอกจาก ที่ พารากอนแล้ว   ตาม โชว์รูม นิสสัน ทั่วประเทศ ก็ มีการจัดงานเปิดตัว ตามสาขาต่างๆ ด้วยเช่นกัน งานนี้ ใกล้ที่ไหน ไปที่นั่นได้เลย

teaser  Nissan sylphy

นิสสัน ชื่อรุ่น ซิลฟี นี้ได้แต่ใดมา

ชื่อรุ่น นิสสัน ซิลฟี  ( nissan sylphy )

ได้รับแรงบันดาลใจจากจิตวิญญาณแห่งการผสมผสานของธาตุดิน ไฟและน้ำ และถูกถ่ายทอดผ่านความสมบูรณ์แบบของการออกแบบที่เหนือชั้น

nissan sylphy

พรีวิว นิสสัส ซิลฟี

พรีวิว ซิลฟี ใหม่'งานแก้มือจากทีด้า'

พรีวิว ซิลฟี ใหม่'งานแก้มือจากทีด้า' : คอลัมน์เปิดโลกยนตรกรรม : โดย...ยุทธพงษ์ ภาษี

            หลังจากที่นิสสัน ประเทศไทย ประสบความสำเร็จกับ โครงการ มาร์ช และอัลเมร่า ในรุ่นอีโคคาร์ รถที่ท้าทายคันต่อไปกำลังจะได้รับการแนะนำ นั่นคือ นิสสัน ซิลฟี ชื่อที่เพิ่งได้รับการยืนยัน อย่างเป็นทางการ  เปิดโลกยนตรกรรม คมชัดลึก รายงาน

            ใครๆ ต่างเอ่ย ถึงความผิดพลาดในการวางตำแหน่ง ในตลาดของนิสสัน ทีด้า ทั้งที่รถนิสสัน ทีด้า เป็นรถคุณภาพการขับดีคันหนึ่งในตลาด นิสสันรอให้โครงการใหญ่อย่างอีโคคาร์มั่นคงในตลาด ก่อนเริ่มแผนการแก้ไขตลาดทีด้าที่ยังนิ่งนาน ด้วยการรื้อรุ่นรถที่เสนอขายพร้อมส่ง ซิลฟี มาพร้อมกับขนาดรถใหม่ ตรงกับโจทย์ที่ทำให้ ทีด้าขายไม่ได้ ซึ่งหลายคนคิดว่า ซิลฟี (เซนทราในบางตลาด) มันคือ บลูเบิร์ด กลับมาเกิดใหม่นั่นเอง ขนาดของทีด้า อยู่ในตลาดรถครอบครัว หรือซี เซ็กเมนท์ ซึ่งกลุ่มนี้มีเจ้าตลาดได้แก่ อัลติส ผู้ได้รับความเชื่อถือทางด้านความคงทนและราคาขายต่อ ในขณะที่ซีวิค ได้ชื่อว่ามีแฟนพันธุ์แท้มั่นคงเหนียวแน่น แม้ตัวใหม่ไม่ค่อยมีความตื่นเต้นมากนัก โจทย์ใหญ่ของซิลฟี การที่จะทำอย่างไรให้ซิลฟีได้รับการยอมรับเหมือนกับ ซันนี่ หรือ บลูเบิร์ด

             หากดูการวางขนาดรถของ นิสสัน ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากเช่น การยกเลิก ซันนี่ หันมาใช้ อัลเมร่า แทน การยกเลิกทีด้าทดแทนด้วย ซิลฟี เป็นต้น ในขณะที่ เทียน่า รุ่นใหม่น่าจะเปลี่ยนชื่อแบบยกทิ้งของเก่าเหมือนกัน ซึ่งจะส่งผลให้รถเก่งทั้งหมดของนิสสัน เป็นโมเดล ที่เรียกว่า โกลบอล โมเดล

             ซิลฟี ใช้ขุมพลัง 2 ขนาด คือ 1600 ซีซี และ 1800 ซีซี ซึ่งเป็นตลาดหลักของ ซี เซ็กเมนท์ โดยเครื่องยนต์   1600 ซีซี แบ่งออกเป็น 4 เกรด  คือเกียร์ธรรดา(S M/T) และอีกสามเกรด เป็นเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT (     S CVT, E CVT, V CVT) ในขณะที่เครื่องยนต์ขนาด  1800 ซีซี มีให้เลือกเฉพาะเกียร์ 2 อัตโนมัติ 2 เกรด คือ      V CVT และ VL CVT

               ความต่างระหว่าง เครื่อง 1600 กับ 1800 ซีซี จะเน้นในเรื่องของกำลังเครื่องยนต์และออพชั่น เช่น 1.8 ไฟหน้าเป็นแบบออโต้ไลท์ มีระบบสื่อสารภายใน เชื่อมบลูทูธ บลูทูธบนพวงมาลัย เชื่อมต่อ USB กล้องมองหลัง จอภาพสีขนาด 4.3 นิ้ว ระบบนำทาง NAVI เป็นต้น ซิลฟี จะเริ่มส่งมอบรถยนต์ให้แก่ลูกค้าได้ตั้งแต่ กันยายนปีนี้ และเป็นรถที่ผู้ซื้อได้สิทธิ์คืนภาษีรถคันแรกเช่นกัน

.............................................................
(พรีวิว ซิลฟี ใหม่'งานแก้มือจากทีด้า' : คอลัมน์เปิดโลกยนตรกรรม : โดย...ยุทธพงษ์ ภาษี)

ขอขอบคุณที่มา ข่าว komchadluek.net

“นิสสัน ซิลฟี” มาชัวร์-ขายคู่ “ทีด้า” กู้หน้านิสสัน สู้ อัลติส และ ซีวิค

 แผนการอุดช่องว่างโปรดักต์ในกลุ่มคอมแพกต์คาร์ของนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย กำลังใกล้กับความเป็นจริงเพราะจากความเคลื่อนไหวล่าสุดในงานปักกิ่ง มอเตอร์โชว์ 2012 ที่ประเทศจีน นิสสันจัดการเปิดตัว “นิสสัน ซิลฟี ใหม่” (Sylphy) ซึ่งโมเดลนี้จะเตรียมผลิตในประเทศไทยพร้อมขายภายในเดือนกันยายนนี้เช่นกัน

       

       โดยเก๋งคอมแพกต์คาร์ตัวถังซีดานรุ่นนี้ ถือเป็นคู่แข่งโดยตรงและพอฟัดพอเหวี่ยงกับพวก โตโยต้า อัลติส และฮอนด้า ซีวิค เพราะที่ผ่านมา “ทีด้า” ทั้งตัวถังแฮตช์แบ็ก และซีดาน (ลาติโอ) ตำแหน่งการขายไม่ค่อยโดดเด่น และแทบจะถูกลืมจากตลาดไปเลย

       

       สำหรับ “ซิลฟี” ยึดการออกแบบสไตล์รถยนต์นั่งรุ่นใหม่ๆ ของนิสสัน กระจังหน้าแทบจะเป็นทรงเดียวกับอัลเมรา ส่วนโคมไฟหน้าแต้มแต่งด้วยหลอด LED เรียงกันอยู่ 6 ดวง ขณะที่ไฟท้ายก็ใช้หลอด LED เพื่อความโดดเด่นเช่นกัน ขณะที่ความแรงจะวางเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง หรือ CVT

       

       ….นิสสัน ซิลฟี ใหม่ เตรียมเปิดตัวในประเทศไทยช่วงเดือนกันยายน ปีนี้ ส่วนราคาน่าจะอยู่ประมาณ 7.5-8.5 แสนบาท ซึ่งจะมาขายในโชว์รูม ทีด้า ตัวถังแฮตช์แบ็ก ส่วนทีด้า ลาติโอ ตัวถังซีดานคงจะหยุดการทำตลาดไป

 

 

ขอบคุณที่มา allnewjazz.com

2013 Nissan Sylphy / Sentra Price in China/ India

Japanese auto giant Nissan wonderfully combined style, luxury and performance while making it’s next generation sedan 2013 Sylphy(Code named L 1 2F) looks like the beautiful Infiniti M shares platform with Nissan Altima but biggest competitor of Toyota Corolla which debuted at 2012 Beijing Motor Show. In North American Market Sylphy is known as 2013 Nissan Sentra.

Sylphy will hit China market by mid 2012 expected priced between from 130.000 to 180.000 yuan and after China it will be launched in 120 countries including India by 2014 priced between Rs 12 lakhs to Rs 16 lakhs. You know Nissan Sylphy, Malaysia’s most fuel-economy midsize 2.0L sedan that is worth RM114,880.00.

2013 Nissan Sylphy/ 2013 Nissan Sentra will come both petrol and diesel engine option. New petrol Sylphy is powered by a 130 bhp, 1.8-liter four-cylinder gasoline engine mated with a next-generation XTRONIC CVT (Continuously Variable Transmission). while the diesel Sylphy is powered by a 108 bhp, 1.5 DCi(K9K) as Renault Fluence mated with a six-speed manual transmission.

It also combines LED-bordered headlights, LED taillights, large air-con vents, leather seats, dual-zone climate control, remote keyless entry, and pushbutton start.

At last I would like to say that new 2013 Nissan Sylphy/ 2013 Nissan Sentra is the best combination of style, luxury and performance. What you think? Please be open to give your view.

2013 Nissan Sylphy/Sentra Undergoes Testing

Nissan's all-new global C-segment vehicle has undergone rigorous testing to ensure its durability. It has been put through the paces so as to affirm its commitment to offering a highly reliable and dependable car, that will continue to face the competition successfully - following in the same trend as the previous generation Sylphy. The new Nissan Sylphy was launched in China and will eventually be sold in 120 countries by 2014.

The US version of the Sylphy will make its North American debut this summer and will be sold as the all-new 2013 Nissan Sentra this fall.



นิสสัน ซิลฟี กินน้ำมันเท่าไหร่

นี่เป็น  อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ nissan sylphy ที่ ทางนิสสัน ได้วิจัยไว้


 HR16DE
5MT วิ่ง 0-100 km/hr = 11.9 วินาที
กินน้ำมันเมื่อวิ่งเฉลี่ย 90 กม/ชม = 17.85 กิโลเมตรต่อลิตร
กินน้ำมันเฉลี่ยทดสอบจากโรงงาน 15.9 กิโลเมตรต่อลิตร

CVT วิ่ง 0-100 km/hr = 11.7 วินาที
กินน้ำมันเมื่อวิ่งเฉลี่ย 90 กม/ชม = 17.85 กิโลเมตรต่อลิตร
กินน้ำมันเฉลี่ย 16.1 กิโลเมตรต่อลิตร

MRA8DE
6MT วิ่ง 0-100 km/hr = 11.4 วินาที
กินน้ำมันเมื่อวิ่งเฉลี่ย 90 กม/ชม = 17.85 กิโลเมตรต่อลิตร
กินน้ำมันเฉลี่ยทดสอบจากโรงงาน = 14.5 กิโลเมตรต่อลิตร

CVT วิ่ง 0-100 km/hr = 11.5 วินาที
กินน้ำมันเมื่อวิ่งเฉลี่ย 90 กม/ชม = 17.85 กิโลเมตรต่อลิตร
กินน้ำมันเฉลี่ย 14.9 กิโลเมตรต่อลิตร

รุ่นและสี Nissan Sylphy 2012 

โดย นิสสัน ซิลฟี จะ มี ทั้งหมด   สองรุ่น หลักๆ แบ่งตามขนาดเครื่องยนต์  ตามนี้


รุ่น 1.6 จะมี
- S
- E M/T
- E CVT
- ES CVT
- VL CVT
รุ่น 1.8 จะมี
- V CVT
- VL CVT

6 สี ที่อาจถูกใช้
ดำ
ขาว
เทาเข้ม
บรอนด์เงิน
น้ำตาลทอง
แดง

นี่เป็น ข้อมูล ก่อน การเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ซึ่ง ข้อมูลนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ ในภายหลัง

ขอขอบคุณข้อมูล จาก sylphythailandclub.com

คลิปทดสอบการพุ่งชน New Nissan Sylphy

คลิปทดสอบการพุ่งชน New Nissan Sylphy นิสสัน ซิลฟี ใหม่ ที่จะเปิดตัวในไทยปลายเดือนสิงหาคมนี้ จากคลิป เป็นการทดสอบการพุ่งชน ทั้งจากด้านหน้า และด้านหลัง ซึ่งจะเห็นว่าโครงสร้างของห้องโดยสารไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด เนื่องมาจากการโครงสร้างเหล็กที่มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษถึง 980Mpa

 ขอบคุณเจ้าของคลิปค่ะ


 

sylphy drift clip

เป็นคลิป ทดสอบ nissan sylphy   โดย จะมีการ จัดเต็ม  ดริฟ กันเห็นๆ ด้วยรถสภาพเดิมๆ  ติดตามชมกันได้เลยครับ

ดีเดย์ วันเปิดตัว นิสสัน ซิลฟี ในประเทศไทย

นิสสัน ได้ส่งสัญญาณ  ได้ฤกษ์เปิดตัว   เจ้าหนู นิสสัน ซิลฟี แล้ว  ในวันที่ 30 สิงหาคม 2555  โดย เป็นครั้งแรก กับการเปิดตัวให้สื่อมวลชน

สำหรับประชาชนทั่วไป

พบกัน ครั้งแรก ที่ ลานพาร์ค พารากอน   31 สิงหาคม - 2 กันยายน 2555 นี้

ในงาน คุณจะได้ สัมผัส และ ทดลองขับ กันได้ ก่อนใครกันเลยทีเดียว

นอกจากนี้ ยังได้ พบ กับ การเปิดตัว พรีเซนเตอร์คู่ หนุ่มหล่อ สาวสวย ของนิสสัน ซิลฟี

ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต และ โป๊ป ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ กันแบบ ใกล้ชิดอีกด้วย

ทั้งนี้ ทางเรา จะ นำข้อมูลมานำเสนอ เพื่อนๆ อย่างสม่ำเสมอ

สำหรับนิสสัน ซิลฟี  ถือเป็นการกลับมาทำตลาดรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็กต์อย่างเต็มตัวอีกครั้งของนิสสัน หลังจากที่ห่างหายมานาน โดยซิลฟีเป็นชื่อที่นิสสันใช้กับรถยนต์ขนาดคอมแพ็กต์ของตัวเองที่ขายอยู่ในญี่ปุ่นภายใต้ชื่อบลูเบิร์ด ซิลฟีซึ่งเปิดตัวในปลายทศวรรษที่ 1990 และบ้านเรามีขายด้วยแต่รู้จักกันในอีกชื่อว่านิสสัน ซันนี่ นีโอ

หลังจากนั้น แม้ในตลาดญี่ปุ่นจะมีบลูเบิร์ด ซิลฟีวางขายในตลาดอย่างต่อเนื่องเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 แต่ในบ้านเราก็ไม่มีการทำตลาดในส่วนนี้อย่างต่อเนื่อง และมอบหมายหน้าที่ในการทำตลาดให้กับทีด้า ซึ่งมีขนาดตัวถังที่ค่อนข้างเล็กจนดูคล้ายกับรถยนต์ในกลุ่มซับคอมแพ็กต์มากกว่า
การกลับมารุกตลาดคอมแพ็กต์อีกครั้งของทางนิสสันด้วยรุ่นซิลฟีจะประเดิมตลาดด้วยตัวถัง 4 ประตูก่อน โดยมีรูปลักษณ์และหน้าตาคล้ายกับซิลฟีที่เปิดตัวขายอยู่ในเมืองจีน ขณะที่เมื่อถึงช่วงต้นปี 2013 จะถึงคิวของทีด้าใหม่ ซึ่งจะมาพร้อมกับตัวถังที่ใหญ่ขึ้นสมกับเป็นรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็กต์ โดยทั้งซิลฟี และทีด้าจะเจาะตลาดด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1,600 และ 1,800 ซีซี